ประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติ และพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหาร และสายน้ำน่าน เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นการขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำน่านที่นำความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ที่สงบ ร่มเย็น ซึ่งเป็นกิจจกรรมประเพณีที่จัดเป็นประจำทุกปี ภายในงานประมีการแสดง แสง สี เสียง การจุดเทียนชัย และขบวนแพไฟของแต่ละอำเภอ ที่ประดับตกแต่ง ลวดลายอย่างสวยงามอลังการ
ตื่นเช้าๆหาบนำเอาอาหาร ความหวานไปถวายพระที่วัดในตอนเช้า 06.00 น. พระที่มาบิณฑบาตในตอนเช้าจะได้แต่ข้าวสวยใส่บาตรไป ส่วนอาหารคาวหวาน จะมีนางหาบ นายหาบ แต่งตัวชุดลาวเวียง วันละประมาณ 10 หาบ ทำหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนหาบเอาอาหารเดินตามพระเข้าวัดไปอีกที่ ซึ่งอาหารคาวหวานที่หาบไปส่งพระจะได้จากชาวบ้านระหว่างทาง ซึ่งชาวบ้านนำอาหารมาว่างไว้แป้นเสาหน้าบ้านใครหน้าบ้านมัน นางหาบ นายหาบ ก็จะเดินเก็บอาหารตามแป้นเสาหน้าบ้านแต่ละหลังไปเรื่อยจนถึงวัด แล้วจึงเอาอาหารถวายพระ เสร็จจากถวายเสร็จ นางหาบ นายหาบ ก็จะเอาชามอาหารของแต่หลังวางคืนไว้แป้นเสาหน้าบ้าน เป็นอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน เว้นวัดพระหรือพระมีกิจนิมนต์
จัดขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๕และเพื่อย้อนรำลึกถึงวันที่เสด็จเมืองตรอนตรีสินธุ์ เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม๒๔๔๔ โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 22 ตุลาคมภายในงานมีกิจกรรมพิธีบวงสรวงฯ การแต่งกายชุดผ้าไทยพื้นเมืองการแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจของ รัชกาลที่ 5เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๔๔๔พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5ได้เสด็จประพาสต้นทางชลมารคเพื่อตรวจตราและดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้แก่ราษฎรทางหัวเมืองฝ่ายเหนือโดยเรือกลไฟออกจากพระนคร เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2444 (ร.ศ.120)และทรงแวะประทับแรมเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ในปีเดียวกันได้เสด็จถึงเมืองพิไชย และทรงประทับแรม 1 คืนวันรุ่งขึ้นจึงได้เสด็จออกจากเมืองพิไชยสู่เมืองตรอนตรีสินธุ์และทรงประทับแรมที่นี่เป็นเวลา 1 คืนก่อนจะเสด็จต่อไปยังบางโพท่าอิฐ ซึ่งปัจจุบันคือ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ส่วนเมืองพิไชย ปัจจุบันคือ อำเภอพิชัย และเมืองตรอนตรีสินธุ์ ปัจจุบันคือ อำเภอตรอนดังปรากฏหลักฐานไว้ในพระราชหัตถเลขาของพระองค์
พอถึงเดือน 7 ขึ้น 1 ค่ำ ก็จะมีพิธีทำบุญกลางบ้าน นิมนต์พระสงฆ์มาสวด 7 ตำนาน 12 ตำนาน พรานต้น มีการสวดอยู่ 3 คืน 3 วัน ตอนเช้าจะถวายภัตตาหาร แด่พระภิกษุสงฆ์ เป็นประเพณีสืบมา เมื่อถึงวันสุดท้ายของการทำพิธีที่เรียกว่า พิธีส่งบ้านส่งเมือง ชาวบ้านทุกหลังคาเรือนจะทำกระทง 4 เหลี่ยม จากกาบกล้วย และทำกระทงเล็ก เพื่อใส่อาหารหวาน คาว ทำตุ๊กตาตามจำนวนคนที่อยู่ในบ้าน บางบ้านถ้ามีรถก็จะทำรถใส่ลงมาด้วย จากนั้นก็จะนำมารวมกันที่บริเวณพิธี เพื่อทำพิธีส่งบ้านส่งเมือง เพื่อทำการสะเดาะเคราะห์ ตามความเชื่อที่มีมา 100 กว่าปีของชาวตำบลหาดสองแคว คนรุ่นหลังจึงได้อนุรักษ์ประเพณีทำบุญกลางบ้านนี้ไว้ ให้อยู่คู่กับคนหาดสองแควตลอดไป ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารเอนกประสงค์ หมู่ที่ 2 หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหาดสองแควเป็นประจำ
เราคัดสรรแพลนการท่องเที่ยวเพื่อความสะดวกในการเดินทางของคุณ